
Big Hit Entertainment และ Naver จับมือกัน งานนี้สื่อบันเทิงต่าง ๆ จัดเต็มแบบใต้ตาดำกันกว่าเดิมแน่นอน+
ในช่วงบ่ายของวันที่ 27 มกราคม Naver ได้จัดประชุมคณะกรรมการและตัดสินใจลงทุน 410 พันล้านวอน (ประมาณ 371 ล้านดอลลาร์) ใน beNX ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Big Hit Entertainment ที่ดำเนินการแพลตฟอร์มชุมชนแฟน ๆ Weverse ผลจากการลงทุนทำให้ Naver ได้รับสัดส่วนการถือหุ้น 49% ใน beNX และธุรกิจ V LIVE ของ Naver จะถูกโอนไปยัง beNX นอกจากนี้ยังมีการตัดสินใจว่า beNX จะเปลี่ยนชื่อเป็น WEVERSE COMPANY Inc. อีกด้วย
โดยในการร่วมงานกันของทั้ง 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ในครั้งนี้ Naver เปิดเผยในวันนี้ว่าพวกเขาจะสร้างแพลตฟอร์มชุมชนแฟนใหม่ระดับโลกโดยร่วมมือกับ Big Hit Entertainment และรวมผู้ใช้เนื้อหาและบริการของ V LIVE และ Weverse ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่แต่ละ บริษัท เป็นเจ้าของ
Naver ตั้งเป้าที่จะได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรมแฟนดอมโดยการร่วมมือกับ Big Hit Entertainment กลยุทธ์นี้มีไว้สำหรับ Big Hit Entertainment ในการเป็นผู้นำธุรกิจด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมในขณะที่ Naver มอบเทคโนโลยีและทักษะที่จำเป็นเพื่อเสริมสร้างการบริการ
Naver เป็นผู้นำด้านการส่งเนื้อหาและเทคโนโลยีสตรีมมิงแบบสดตลอดจนฟิลด์แพลตฟอร์มชุมชน Naver คาดหวังที่จะผสมผสานความกล้าหาญทางเทคโนโลยีเข้ากับความสามารถทางธุรกิจของ Big Hit Entertainment
บริษัท ต่าง ๆ อธิบายว่านอกจากศิลปินที่กำลังทำงานกับแต่ละแพลตฟอร์มแล้วพวกเขาจะเพิ่มศิลปินระดับโลกอื่น ๆ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มชุมชนแฟนศิลปินที่ดีที่สุดซึ่งแฟน ๆ สามารถเพลิดเพลินกับเนื้อหาของศิลปินและสื่อสารกับพวกเขาได้

Naver ลงทุน 411 พันล้านวอนถือหุ้น 49% ในบริษัทย่อยของ Big Hit Entertainment
วัฒนธรรมแฟนดอมที่สร้างสรรค์โดย K-POP ซึ่งนำโดย BTS กำลังกลายเป็นวัฒนธรรมใหม่สำหรับคนรุ่นเจนเนอร์เรชั่นใหม่ทั่วโลกทำให้ทั้งสองบริษัทจะผนึกกำลังกันเพื่อสร้างความสับสนให้กับตลาดโลกและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ด้วยเหตุนี้ Naver จึงวางแผนที่จะลงทุนสัดส่วนการถือหุ้น 49% ใน beNX ซึ่งเป็น บริษัทย่อยขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจ ‘Everse’ ของ Big Hit Entertainment ซึ่งสั่งสมประสบการณ์และความรู้ในตลาดบันเทิงมาเป็นเวลานาน โดยในส่วนของ Naver จะเป็นฝ่ายกลยุทธ์ในการเพิ่มการทำงานร่วมกันระหว่างสองบริษัทโดยมุ่งเน้นไปที่การบริการและความสามารถทางเทคโนโลยีที่จะสนับสนุนธุรกิจอย่างมั่นคง
แพลตฟอร์มใหม่นี้คาดว่าจะไม่มีใครเทียบได้ในตลาดความบันเทิงระดับโลกโดยการเพิ่มเทคโนโลยีของ Naver ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการส่งผ่านเนื้อหาสตรีมมิงแบบสดและแพลตฟอร์มชุมชนเพื่อให้ความสามารถทางธุรกิจของ Big Hit Entertainment แข็งแกร่งขึ้นผ่าน Weverse ที่เป็นการร่วมกันของทั้งสองแพลตฟอร์มหลัก

Seong-suk Han CEO ของ Naver กล่าวว่า “ในการขยายอิทธิพลของเราในตลาดโลกเราจำเป็นต้องมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างแพลตฟอร์มการแข่งขันที่สามารถสร้างการทำงานร่วมกันที่เหนือกว่าการแข่งขันระหว่างแพลตฟอร์มในประเทศ”
“การเพิ่มเนื้อหาวัฒนธรรม K-POP เพื่อแข่งขันกับเทคโนโลยีทั่วโลกจะเป็นการพัฒนาวงการดนตรีและอื่น ๆ ที่ไม่เหมือนใครในตลาดความบันเทิงระดับโลก”
“วัฒนธรรมแฟนดอมซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นไอดอลอัจฉริยะกำลังแพร่กระจายไปยังสาขาต่าง ๆ สร้างวัฒนธรรมใหม่และคุณค่าทางเศรษฐกิจและพัฒนาขึ้น’’
เขากล่าวเสริมว่า “เราจะสร้างวัฒนธรรมแฟนดอมที่เริ่มต้นในช่วง Big Hit และ K-POP กลายเป็นกระแสหลักของวัฒนธรรมบันเทิงทั่วโลกรวมถึงยุโรปและอเมริกาใต้นอกเหนือจากเอเชียและอเมริกาเหนือ”
Park Ji-won ซีอีโอของ Big Hit HQ กล่าวว่า “นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2019 Weverse เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและยืนยันถึงความจำเป็นและอิทธิพลของแพลตฟอร์มชุมชนแฟนเพลงในตลาดเพลงทั่วโลก”
เครดิตรูปภาพ soompi.com และ entertain.naver.com
#ข่าวดารา #ข่าวบันเทิง #ข่าวออนไลน์ #ข่าวฟุตบอล #K-Pop #BigHitEntertainment #Naver #Weverse #VLIVE